อ่านแล้วอยากแบ่งปัน

          การเป็นคนที่เพียบพร้อมด้วยกาย วาจา และจิตใจที่ดีงาม เป็นความคาดหวังที่พ่อ แม่ ผู้ปกครองล้วนอยากให้มีขึ้นในตัวเด็ก ซึ่งเป็นมนุษย์ตัวน้อยที่เกิดมาพร้อมกับจิตใจอันบริสุทธิ์ซึ่งเปรียบเสมือนผ้าขาวที่รอการแต่งแต้มเติมสีสันจากสิ่งแวดล้อม ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งแวดล้อมที่มีชีวิตและมีความใกล้ชิดเด็กที่สุดตั้งแต่แรกเริ่มที่ได้สัมผัสอากาศภายนอกครรภ์มารดา ก็เห็นจะเป็นคนที่คอยอบรมเลี้ยงดู ไม่ว่าจะเป็นพ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย หรือบุคคลอื่นๆ ที่เฝ้ารอคอยการถือกำเนิดของหนึ่งชีวิตน้อยๆ ซึ่งหลายๆ คนโดยเฉพาะคุณพ่อ คุณแม่มือใหม่ คงตั้งคำถามอยู่ไม่น้อยเกี่ยวกับการอบรมเลี้ยงดูเด็กคนหนึ่งให้เติบโตไปพร้อมกับพัฒนาการด้านร่างกายและจิตใจที่ดีนั้นต้องทำอย่างไร ผู้เขียนเองก็เป็นคุณแม่มือใหม่ที่พยายามหาคำตอบที่ให้ได้มาซึ่งวิธีการอบรมเลี้ยงดูลูกให้เป็นไปตามความคาดหวังเช่นเดียวกับคุณพ่อ คุณแม่ท่านอื่น

                   วิธีการหาคำตอบนั้นไม่ยากเลยสำหรับคุณแม่นักอ่านอย่างผู้เขียน วิธีการแรกแสนสะดวกสบายในยุค Social Network คือการอ่านบทความ ข้อความ หรือบทสนทนาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ความคิดเห็นของบรรดาแม่ๆ ใน Facebook หรือกระทู้ตาม Website วิธีการต่อมาที่ไม่ยากเย็นเช่นกัน คือ การเดินเข้าไปในร้านหนังสือ หรือแม้แต่ร้านสะดวกซื้อยอดนิยมก็มีหนังสือที่ให้คำตอบ และเสนอแนะแนวทางการอบรมเลี้ยงดูลูกในหลายรูปแบบให้เลือกสรร

                   ในฐานะที่ผู้เขียนมีบทบาทเป็นทั้งครูในวิชาชีพและเป็นคุณแม่มือใหม่ เมื่ออ่านแล้วจึงอยากแบ่งปัน เพราะเห็นว่าแนวคิดที่ได้จากการอ่านนั้นเป็นประโยชน์กับทั้งพ่อ แม่ ผู้ปกครอง และครูที่ต้องใช้เวลาอยู่กับเด็ก ดูแลเด็ก สามารถนำไปเป็นแนวทางหล่อหลอมเด็กให้เป็นคนเก่ง คนดีและมีความสุข พร้อมจะเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ มีภูมิคุ้มกันที่จะใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างปลอดภัย ทั้งนี้จะต้องอาศัยความร่วมมือและความเอาใจใส่จากทั้งบ้านและโรงเรียน

                   สุดท้ายนี้ขอฝากบทความอื่นๆ ให้ติดตามอ่านกันต่อไปในโอกาสหน้านะคะ ผู้เขียนหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่าน ขอให้สนุกกับการอ่านและมีความสุขกับการเลี้ยงดูเจ้าตัวน้อยผู้เป็นที่รัก

                        12.40 น. พิมพ์มาตา / 8 ก.ค. 2557

นวดสัมผัสมหัศจรรย์ (Baby Massage)

          การนวดสัมผัส เป็นภาษากาย ภาษาแรกที่จะสื่อไปถึงทารก ผ่านระบบประสาทสัมผัสทางผิวหนัง ช่วยส่งเสริมพัฒนาการทางด้านร่างกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญา เด็กที่ได้รับการโอบกอดสัมผัสอยู่เสมอจะรู้สึกสึกว่าตนเป็นที่ยอมรับเป็นที่ต้องการของพ่อแม่ เด็กจะค่อยๆ เรียนรู้ที่จะรักตอบพ่อแม่ และบุคคลรอบข้าง...อ่านต่อคลิกที่นี่เลยค่ะ...

ถ้อยคำแบบใดสร้างลูกให้มีจิตใจดี

                คงปฏิเสธไม่ได้ว่าผู้ปกครองหรือคนที่เป็นพ่อ เป็นแม่ มักจะคาดหวังว่าลูกหลานอันเป็นที่รักจะต้องเป็นเด็กที่มีจิตใจดี มากกว่าการคาดหวังให้เขาเป็นเด็กฉลาด ซึ่งผู้เขียนได้อ่านเจอกลยุทธ์ที่น่าสนใจจากหนังสือ 60 กลยุทธ์ สร้างเด็กอัจฉริยะฉบับ “คุณแม่มือโปร” ได้กล่าวถึงการใช้คำพูดของแม่ในชีวิตประจำวัน มีส่วนทำให้ลูกเป็นเด็กที่มีจิตใจบริสุทธิ์ ...อ่านต่อคลิกที่นี่เลยจ้า...

เด็กฉลาดสร้างได้ตั้งแต่ในครรภ์

โภชนาการที่ดีย่อมนำมาซึ่งสุขภาพร่างกายที่ดี ยิ่งหากเป็นโภชนาการของคุณแม่ตั้งครรภ์แล้ว ไม่เพียงแต่ส่งผลต่อสุขภาพของคุณแม่เท่านั้น ยังส่งผลต่อคุณลูกอีกด้วย เรียกได้ว่ากิน 1 ได้ถึง 2  กล่าวคือ กินคนเดียว เลี้ยงได้ถึงสองชีวิตทีเดียวเชียวล่ะค่ะ ซึ่งแน่นอนว่าแม่กินอะไรลูกก็จะได้รับสารอาหารนั้น

            เกริ่นนำซะขนาดนี้ กลยุทธ์การสร้างเด็กฉลาดที่จะมานำเสนอในวันนี้คงหนีไม่พ้นเรื่องอาหารการกินเป็นแน่แท้ ใช่แล้วล่ะค่ะ....แต่เอ...อาหารจะสร้างเด็กฉลาดได้อย่างไร สร้างตั้งแต่ในครรภ์อีกต่างหาก....อ่านต่อคลิกที่นี่เลยค่ะ.....

4 คาถาสร้างเด็กว่านอนสอนง่าย

       เด็กที่ว่านอนสอนง่ายมักเป็นที่รักของคนทั่วไป มีแต่คนคอยให้คำแนะนำสั่งสอนด้วยความเต็มอกเต็มใจมากกว่าเด็กดื้อหรือเด็กที่ชอบต่อต้าน แน่นอนว่าเด็กประเภทนี้มักจะประสบความสำเร็จในชีวิตเพราะมีลักษณะนิสัยที่พร้อมจะรับฟังความคิดเห็น คำแนะนำ หรือการอบรมสั่งสอนจากผู้อื่น แต่คุณพ่อ คุณแม่ หรือผู้ปกครองจะทำอย่างไร ลูกหรือเด็กในปกครองจึงจะเป็นเด็กว่านอนสอนง่ายเช่นนี้ได้ ติดตามอ่านโดยคลิกที่นี่ได้เลยค่ะ

                        

เอาใจเขามาใส่ใจเรา : ภูมิคุ้มกันความเห็นแก่ตัวที่จะนำมาซึ่งความเดือดร้อนแก่ตนเองและผู้อื่น

......เอาดวงใจของเขา ใส่ดวงใจของเรา แล้วจะรู้ว่าเขาคิดกะเรายังไง คิดอย่างโน่นอย่างนี้ คิดเอาเองเรื่อยไป เปิดประตูหัวใจให้ความจริงมันแง้ม....ออกมา…….

                         ท่อนหนึ่งของบทเพลง “แง้มใจ” หนึ่งใบบทเพลงอันไพเราะของวงคาราบาวที่ฟังคุ้นหู ไม่ใช่สิ...ติดหูเลยแหละ จำได้ว่าเป็นเพลงที่ได้ฟังครั้งแรกเมื่อตอนเข้าเรียนชั้น ม. 1 ซึ่งเป็นเพลงที่อาจารย์ฝ่ายปกครองท่านหนึ่งใช้ในการปฐมนิเทศนักเรียนใหม่ชั้น ม.1 และ ม.4 ที่ติดหูก็เพราะ ท่านเปิดตลอดทั้งวันที่มีโอกาส แถมมีเนื้อร้องแจกให้ร้องตามกันเลยทีเดียว ที่สำคัญท่านยังให้ข้อคิดที่ได้จากเพลง โดยสรุปแล้ว คือต้องการให้ทุกคนอยู่ร่วมกันได้โดยไม่เบียดเบียดซึ่งกันและกัน ซึ่งก็คือการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขในสังคมเล็กๆ ที่เรียกว่าโรงเรียนนั่นเอง .....อ่านต่อคลิกเลยค่ะ....